ห้ามลงโทษลูก ด้วยการทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย จิตใจ อย่างรุนแรง

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2568 ราชกิจจานุเบกษา มีประกาศออกมาว่า ให้ยกเลิกข้อความในมาตรา 1567 (2)  แล้วแก้ไขใช้ข้อความนี้แทน

“(๒) ทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอนหรือปรับพฤติกรรม โดยต้องไม่เป็นการกระทำทารุณกรรม หรือทำร้ายด้วยความรุนแรงต่อร่างกายหรือจิตใจ หรือกระทำโดยมิชอบ”

เห็นได้ว่ากฎหมายใช้คำจำกัดความได้กว้างมาก ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการไม่ให้ลงโทษลูกเลย แต่คุณพ่อคุณแม่อย่าพึ่งตื่นตระหนกไป กฎหมายไม่ได้ห้าม ไม่ให้ลงโทษลูก แต่ควรลงโทษตามความเหมาะสม ว่ากล่าวตักเตือน ปรับพฤติกรรมตามสมควร ไม่ใช่ลงโทษอย่างร้ายแรง

และอีกอย่าง นี่ก็เป็นเพียงกฎหมายแพ่งฯ ซึ่งไม่มีโทษจำคุกหรือปรับแต่อย่างใด แต่ระวัง หากลงโทษลูกด้วยความรุนแรง ก็อาจจะเข้าข่ายทำร้ายร่างกาย ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายอาญา มีโทษปรับและจำคุก

อย่างไรก็ดี ทีมงานกฎหมาย “ไทยลอว์ ทูเดย์” ขอฝากข้อความถึงผู้อ่านที่เป็นผู้ปกครอง คุณพ่อ คุณแม่ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยว่า 

” เด็กที่พึ่งจะลืมตามาดูโลกไม่กี่ปี เขาไม่รู้จักเหตุและผลมากพอ สมองเขายังพัฒนาไม่เต็มที่ การรับรู้ การใช้เหตุผลยังไม่สามารถแยกแยะได้หมดว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี  สังเกตจากเรา ขนาดเป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังไม่สามารถควบคลุมอารมณ์ตัวเองได้เลย แล้วจะไปสอนอะไรเด็กได้  ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน และ… เด็กเติบโตเป็นเช่นไร ส่วนหนึ่งก็มาจากสภาพแวดล้อมที่เลี้ยงดูเขามาด้วย หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือ พ่อแม่เป็นต้นแบบนิสัยของเด็ก นั่นเอง”

“ทารุณกรรม” เป็นคำที่มีความหมายกว้างและครอบคลุมการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางร่างกาย จิตใจ หรืออารมณ์แก่เด็ก

ประเภทของการทารุณกรรม:
  • การทารุณกรรมทางร่างกาย: การใช้กำลังทำร้ายร่างกาย เช่น ตบ ตี เตะ ผลัก ชก หรือใช้สิ่งของทำร้าย
  • การทารุณกรรมทางจิตใจ: การกระทำที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกหวาดกลัว เสียใจ อับอาย หรือไร้ค่า เช่น การด่าทอ ข่มขู่ คุกคาม เยาะเย้ย หรือเพิกเฉย
  • การทารุณกรรมทางเพศ: การกระทำทางเพศที่ไม่ได้รับการยินยอม เช่น การลวนลาม ข่มขืน กระทำชำเรา อนาจาร ถ่ายภาพหรือวีดีโอขณะเปลื่อยเปล่า หรือการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ
  • การละเลย: การไม่ดูแลเอาใจใส่ เช่น การไม่ให้ค่าอาหาร ที่พัก  ค่าการศึกษา หรือการรักษาพยาบาล อย่างต่อเนื่องเหมาะสม
ผลกระทบของการทารุณกรรม:

การทารุณกรรมสามารถส่งผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น:

  • ปัญหาทางร่างกาย: บาดเจ็บทางร่างกาย เลือดตกยางออก บวมอักเสบ ปัญหาด้านสุขภาพเรื้อรัง และอื่นๆ
  • ปัญหาทางจิตใจ: โรคซึมเศร้า วิตกกังวล ความผิดปกติหลังเผชิญความเครียด (PTSD)
  • ปัญหาทางสังคม: ความยากลำบากในการสร้างความสัมพันธ์ในสังคม ปัญหาในการทำงานหรือการเรียน
การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทารุณกรรม:

การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทารุณกรรมเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม หากพบเห็นหรือสงสัยว่ามีการทารุณกรรมเกิดขึ้น ควรให้ความช่วยเหลือและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ:
  • ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300
  • สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
  • สถานีตำรวจ

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังประสบปัญหาการทารุณกรรม โปรดขอความช่วยเหลือ อย่าลังเลที่จะติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับการสนับสนุน